ผ้าแพรวานั้นเป็นภูมิปัญชาของชาวภูไท หรือผู้ไทย เป็นชาติพันธุ์ที่อพยพจากตอนเหนือของลาว มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในภาคอิสานของไทย ส่วนมากอยู่กันที่ จ. กาฬสินธุ์ อุดรธานี ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร จุดเด่นของชาวภูไทนั้นคือเครื่องนุ่งห่ม ที่มีความละเอียด ประณีต และสวยงาม
“ผ้าแพรวา สมัยก่อนนั้นมีสีแดง เป็นสไบพาดไหล่ ใส่กับเสื้อสีดำ สีดำแดงนั้นเป็นเอกลักษณ์ของคนภูไท” คำสอนเล่าที่มาของสีแดงบนผืนผ้า ส่วนลวดลายนั้นก็สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษ แต่ละบ้านจะมี ผ้าแซ่ว หรือผ้าต้นแบบ เป็นผ้าที่บรรจุลวยลายต่าง ๆ ที่ให้เป็นต้นแบบในการทอผ้าแพรวาแต่ละผืน คำสอนเล่าว่า จะทอลายต่าง ๆ ได้ ก็ต้องมาดูที่ผ้าต้นแบบผืนนี้ จะผิดจะถูกอย่างไร ตรวจสอบได้ที่ผ้าต้นแบบนี้เช่นกัน
เมื่อก่อนแพรวาจะถูกทำเป็นผ้าสไบ เพราะชาวภูไทเชื่อว่าผ้าแพรวานั้นเป็นของสูง จะทำเฉพาะผ้าสไบ เสื้อ แต่ไม่ทำเป็นผ้าซิ่น แต่ปัจจุบันนี้แพรวาไม่ได้เป็นเพียงผ้าสไบพาดไหล่สำหรับหญิงชาวภูไทเท่านั้น เพราะหลังจากที่สมเด็จพระราชินีทรงรับสั่งให้ทอผ้าแพรวา พระองค์ยังทรงให้ทอเป็นผ้าซิ่น จากสีแดงสีเดียว ก็ทรงให้ทอหลายสี เพื่อให้คนทั่วไปได้ใช้ และจับต้องได้ ปัจจุบันจึงมีผ้าแพรวาหลากสี หลากลวดลาย บางลายก็ดูทันสมัยขึ้น คำสอนบอกว่าเป็นเพราะพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระราชินี ที่ทำให้เธอมีเช่นทุกวันนี้